In-Car DVR – Vehicle Blackbox DVR C600 Full HD 1080p – รีวิวกล้องบันทึกวีดีโอ ติดรถยนต์ ฟูลไฮเดฟฟินิชั่น จิ๋วแจ๋ว.

สวัสดีครับ มาตามสัญญาที่คราวที่แล้ว บอกไว้ว่าจะรีวิวของสองสิ่งที่ได้มาจากการเดิน คลองถม ซึ่งได้ทำการ รีวิวเรื่อง ไฟฉาย Super Blight Cree LED ชาร์จได้ ราคาถูก ไปเรียบร้อยแล้ว

คราวนี้ ถึงคิวของ อุปกรณ์ที่กำลังจะเริ่มเกิดความนิยมในประเทศไทย นั่นคือ กล้องบันทึกวีดีโอติดรถครับ ซึ่งกล้องชนิดนี้มันมีหลายคำเรียกมากๆเลยครับ เช่น กล้องซีซีทีวีติดรถ (In-car CCTV), กล้องวงจรปิดติดรถ (In-car DVR), กล่องดำติดรถ (มาจากกล่องดำ blackbox บนเครื่องบิน), Dash DVR, Mobile DVR, Portable DVR, กล้องหน้ารถ  หรือ เครื่องถ่ายวีดีโอขณะขับขี่ เป็นต้นครับ, แต่ในอินเทอร์เน็ต คำที่เรียกทั้งในและ ต่างประเทศ น่าจะใช้คำว่า Vehicle DVR หรือ car DVR ครับ เพราะ DVR ย่อมาจาก Digital Video Recorder (เครื่องบันทึกวีดีโอแบบดิจิตอล) ครับ.

กล้อง DVR ในรถนี้ ในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันในท้องถนนเกิดขึ้นบ่อยครั้งจะใช้กันมากครับ เรียกได้ว่ากลายเป็นสิ่งจำเป็นในรถเสียแล้ว เช่น ประเทศในกลุ่ม รัสเซีย เก่า ซึ่งเราจะพบวีดีโอในรถนี้มากมายใน ยูทูป เพราะอุบัติเหตุ หรือ เกิดเหตุ รุนแรงบ่อยมากๆ ประมาณว่าประชากรค่อนข้างอารมณ์ร้อน และบ่อยครั้งมิจฉาชีพแกล้งทำเป็นโดนรถชนเพื่อเอาประกันหรือแบล๊ดเมล์ กล้องชนิดนี้จึงมีความจำเป็นมาก. สำหรับในประเทศไทยเรา ปัจจุบันเราก็เริ่มที่จะเห็นคลิปเหตุการณ์ต่างๆจาก DVR ในรถบ่อยขึ้นครับ เป็นข่าวก็มี ไม่เป็นข่าวก็มี เพราะมันน่าจะเป็นหลักฐานชั้นดีในการยืนยันความบริสุทธิ์ เช่นขับทางไกลปกติแล้วโดนเรียกเรื่องความเร็ว หรือ ยืนยันเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้.

การรีวิวครั้งนี้ ค่อนข้างยากสำหรับผมครับ เพราะต้องใช้ความรู้ในการรีวิว คือ อย่างน้อยๆเราต้องพอที่จะรู้ข้อมูลจำเพาะ เกี่ยวกับเรื่องกล้องวีดีโอ และจะต้องอัพโหลด คลิปวีดีโอซึ่งขนาดมันใหญ่มากจริงๆไปที่ ยูทูป เพื่อให้ผู้อ่านรีวิวชิ้นนี้ได้ชมคุณภาพจริงๆกัน, กล้องตัวนี้ ไม่ได้ตั้งใจที่จะไปซื้ออีกเช่นเคย แต่มันมีอยู่ในใจอยู่แล้วว่าจะซื้อตัวถูกๆมาทดลองเล่น และกะว่าจะศึกษาให้มากอีกหน่อยแล้วค่อยหาซื้อ, แต่ในเมื่อไปถึงถิ่นนำเข้าหลักของเมืองไทยแล้ว ใยที่ข้าพเจ้าจะรอช้าไปวันหน้าได้

ข้อสังเกตุอย่างนึงนะครับ กล้องชนิดนี้ มีหลายระดับราคาครับ ตั้งแต่ ไม่ถึงพัน จนกระทั่งหลายๆพันบาท, ถ้าจะเปรียบเทียบก็คงต้องไปหาตัวที่ระดับราคาเดียวกัน ถึงจะเทียบความคุ้มค่ากันได้ครับ. เหมือนจะเอารถเล็ก toyota yaris ไปเทียบกับ BMW mini คงไม่ถูกนัก, ที่ถูกต้องมันก็ต้องเอา yaris กับ jazz รุ่นราคาระดับเดียวกันมาเทียบกัน.

สิ่งที่ผมมีข้อมูลอยู่ในหัวแบบน้อยมาก แค่เคยดูข้อมูลดูการพูดคุยถึงปัญหาการใช้งานกล้องชนิดนี้ในบอร์ดต่างๆแบบผ่านตา นี่คือสิ่งที่ผมกำหนดไว้ในหัวครับ

1. ต้องเป็น Full HD (Full High Definition, ฟูล เฮช ดี)
2. มีแบตในตัว เล็กน้อย
3. ขนาดเล็กพอสมควร ไม่จำเป็นต้องจอภาพใหญ่
4. มี Infrared LED
5. ถ่ายกลางวันต้องไม่จ้าแดด จนวีดีโอขาวสว่างจนมองอะไรไม่เห็น (ผมเห็นรุ่นราคาถูกยอดฮิตในเน็ตรุ่นหนึ่ง จอใหญ่กว่า เกิดอาการนี้ เลยตั้งใจว่าจะไม่มองรุ่นนั้นเลย)
6. ราคาไม่เกิน 1400 บาท (ไม่รวม memory) ณ. วันที่รีวิว

ผมมีความรู้ในหัวแค่นี้เองครับ ถ้าผมได้ศึกษามากกว่านี้ คงได้ รุ่น ที่จะไปซื้อเลย

เอาหล่ะ เรามาเริ่มกันครับ

มาละครับ หน้าตาพอใช้ได้เลยทีเดียว ครับ กล่องไม่ระบุยี่ห้อ เพียงแค่ระบุชื่อสินค้า “Vehicle Blackbox DVR Full HD 1080p”

หลังจากที่กลับมาบ้านก็ได้ค้นคว้าอยู่นาน ก็ไม่เจอยี่ห้อผู้ผลิตจริงๆ แต่ได้แค่ ชื่อ model ว่า c600 (ซี หกร้อย)

และส่วนใหญ่มีจำหน่ายแพร่หลายในเวปประเทศกลุ่ม รัสเซีย ครับ แสดงว่าเป็นตลาดหลักของสินค้าชนิดนี้

คุณสมบัติเด่นๆ ข้างกล่อง ระบุ ตามภาพครับ เด่นๆคือ ถ่ายภาพนิ่งได้ 5MP มี Motion Detection

Spec หลังกล่องเพียบเลย ผมไม่มี่ความรู้เรื่องกล้อง เลยหลายตัวไม่เข้าใจ แต่จุดเด่นจริงๆอยู่ตรง Full HD และมี G-Sensor (ตรวจจับการสั่นสะเทีอน) ถ้าเครื่องสั่นสะเทือนมากๆ (ซึ่งอาจจะเป็นอุบัติเหตุ) วีดีโอที่อยู่ในเมโมรี่จะถูกเซพลง SD Card ทันทีแล้วล๊อกเพื่อไม่ให้โดนลบ (ปกติจะเซพทุกๆ 3 นาที) , มี Motion Detection (ตรวจจับความเคลื่อนไหว) มีการเคลือนไหวในมุมกล้อง กล้องก็จะก็จับวีดีโออัตโนมัติ, เออ ดีแฮะ

อีกด้านเป็นคุณสมบัติที่ผู้ผลิตคงจะเน้นไว้ เพราะหลายตัวในตลาดที่ราคาพอๆกันอาจจะไม่มี คือ เลนส์มุมมองกว้างถึง 160 องศา และ G-Sensor

ผมได้ลองค้นดูในเน็ต พบว่า มีรุ่นที่ระบุ 120 และ 140 องศาด้วย คาดว่าเป็นรุ่นก่อน

กล่องบู้บี้นิดนึง คนขายบอก แสดงว่าตัวนี้ดี กล่องขนาดนี้ มันยังใช้งานได้ แสดงว่าตัวนี้แจ่มจริง (-_-‘)

เปิดกล่องมาก็มีเพียงแค่เนี้ย

มีตัวกล้อง, แท่นติดกระจก, Adaptor ช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์, สาย USB – Mini USB และ คู่มือ

ชมคู่มือกันเลยครับ ไม่ระบุยี่ห้อ และที่มาเช่นเคย

วิธีใช้ง่ายๆ ไม่ต้องอ่านก็ใช้ง่ายครับ

Spec แบบละเอียดอีกครั้งชัดๆครับ

 

จากการลองใช้และพินิจพิเคราะห์แล้ว Specification ในคู่มือนี้น่าจะตรงและถูกต้องจริงครับ แต่ไม่มีระบุขนาดของ CCD

ขายึดกระจกครับ, ด้านยึดกล้องเป็นแบบร่องเสียบ จุดนี้ผมว่าน่าจะใช้แบบ Tripod ของกล้องจะดีกว่า
เพราะไม่รู้แบบนี้ ถ้าหักไปจะซื้อร้านทั่วไปได้ไหม

ตัว Power Adapter สำหรับที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ครับ Output 5V 1A ครับ ความยาวสายที่ให้มา ประมาณ 3 เมตรเลยทีเดียวครับ มิน่าถึงต้องให้มา 1 Amperage (1000mAh)

เมื่อใช้ตัวนี้ในรถ ถ้าเสียบเอาไว้แล้วติดเครื่องยนต์ กล้องจะเปิดและเริ่มบันทึกเองทันทีครับ แล้วหลังดับเครื่องยนต์ กล้องจะบันทึกลง micro SD เสร็จแล้วกล้องจะปิดตัวเอง
เพราะรถผมดับเครื่องที่จุดบุหรี่ก็ตัดไฟ.

(ต้องระวังนิดนึงนะครับ ช่องจุดบุหรี่ ในรถคุณต้องเป็นแบบตัดไฟตามกุญแจรถด้วย ไม่เช่นนั้นแบตรถอาจจะหมดถ้าเสียบทิ้งข้ามคืน ต้องใช้วิธีดึงออกตอนดับเครื่องแทน)

 

มาถึงตัวกล้องครับ มีแค่ 6 ปุ่มเท่านั้น จอภาพ LED LTPS ขนาด 1.5 นิ้ว คมชัดสูงครับ ใต้จอระบุเน้นว่า Full HD 1080p

มิติ กว้าง x สูง x ลึก = 6.5 cm x 4.1 cm x 5.0 cm

ด้านบนมีสองรู คือ ไมค์โครโฟน รับเสียง และ ช่องกดปุ่ม รีเซ็ต คืนการตั้งค่าจากโรงงาน และช่องเสียบขายึดกระจก

สคิกเกอร์แปะวันผลิต คือ 2013 เดือน 3

ด้านล่างไม่มี function อะไรเลยครับ มีเพียงสติกเกอร์ ที่ผมคิดว่าเป็นยี่ห้อผู้จำหน่าย แต่ไมใช่ผู้ผลิตเอง และผมไปค้นในเน็ตก็ไม่เจอเวปของแบรนด์นี้

ด้านซ้าย เป็นช่อง mini-USB มาตรฐาน เพื่อใช้ ชาร์จ และ เชื่อมต่อกับ PC

 

ด้านขวาเป็นช่องเสียบ Micro SD (หรือเรียกว่า TransFlash) รองรับได้ถึง 32GB แต่ผมเสียบไปแค่ 8GB

ด้านหน้าดูหล่อเหลาเอาการมากครับ เลนส์ขนาดใหญ่ (กว่าเลนส์มือถือ) และ Infrared LED ถึง 12 ตัว
เลนส์เป็นแบบ Fix นะครับ ปรับ focus ไม่ได้ และมุมมองกว้างมากเลยทีเดียว คือ 160 องศา เก็บภาพกว้างมาก

พูดถึง Infrared LED มันสว่างไม่ได้มากมายอะไรนะครับ คิดว่าส่องไกลได้ประมาณ 3-4 เมตรเท่านั้น แต่สำหรับรถตอนขับก็มีไฟหน้ารถอยู่แล้วจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรครับ

จอภาพ สีสรร สด และ contrast สูงมากครับ อยู่ในรถกลางวันแดดๆก็ชัดเจนมาก ความละเอียดจากที่ประเมินด้วยสายตาน่าจะ 320×240 จุด

รูสองรูด้านซ้าย รูบนคือ ไฟสีส้ม เพื่อแสดงสถานะการชาร์จอยู่, รูล่าง คือ ไฟสีฟ้า แสดงว่ากล้องเปิดทำงานอยู่  ครับ

อีกมุมหล่อๆครับ

สังเกตุที่ แหวนโลหะครอบเลนส์นะครับ ผมไปเจอมาแล้วตัวกล้องหน้าตาเหมือนกัน แต่เลนส์มันดันไม่เหมือน บางตัวไม่มีแหวน บางตัวแหวนพลาสติกแบนๆ บางตัวเลนส์เป็นโดมเว้า เป็นต้น
Software ก็จะต่างกัน, ดังนั้นเวลามีคนมาถามการใช้งานกับผม ผมอาจจะตอบไม่ได้ หรือมีปัญหาไม่เหมือนกัน ก็เพราะมันคนละตัวกันครับ บางตัวอาจจะดีกว่าตัวที่ผมรีวิวนี้ก็ได้

จอดูชัดเจนจริงครับ ภาพเคลื่อนไหวไม่มีกระพริบ หรือ กระตุกเลย ระบบ user interface ใช้งานง่าย มีหลายภาษาแต่ไม่มีภาษาไทย

 

พยายามถ่ายให้เห็นจุดชัดๆครับ ลองนับกันดูนะครับ

 

ระบบเมนูเรียบง่าย ลองใช้แป๊ปเดียวก็เข้าใจวิธีใช้ จากในภาพแสดงให้เห็นว่า มันรองรับ video 1080p Full HD จริงครับ
และใน โหมด ถ่ายภาพ ใน Spec ระบุว่า 5MP แต่จริงๆตั้งได้ถึง 12MP ครับ (แต่คงเป็นภาพขยายขนาด เพราะ CCD มันน่าจะแค่ 2MP)

 

\

ประกอบร่างติดห้อยแบบนี้นะครับ แต่จะติดแบบเอากล้องตั้งก็ได้ ในระบบมีเมนู พลิกจอให้ด้วย

ด้านข้างก็ดูดี ทีเดียวครับ และขนาดมันก็เล็กมาก จาก แป้นยึดกระจก มาล่างสุด ประมาณแค่ 11 เซ็นติเมตร เท่านั้น

เรามาชมตัวอย่างภาพนิ่งและวีดีโอ กันสักเล็กน้อยครับ

 

ภาพที่ได้จากโหมดถ่ายภาพนิ่ง ที่ผมตั้งตามโรงงานคือ 5MP ครับ 2592×1944 pixels, น่าผิดหวังครับ เพราะมันดูเหมือนภาพขยายจากความละเอียดระดับแค่ VGA. (กดที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดเต็ม)

 

ตัวอย่างภาพที่ ตัดช๊อตนึงออกมาจาก คลิปวีดีโอครับ จะเห็นได้ว่า มันคือ 1920×1080 จุดแท้ (คลิกที่ภาพ เพื่อชมขนาดเต็ม)
มุมมองกว้างจริงครับ กว้างกว่าภาพจากโหมดภาพนิ่งข้างบน สังเกตุจาก ขอบภาพ จะถูกบีบคล้าย Fish eye len ผมยังไม่ได้พิสูจน์ว่า 160 องศาจริงหรือไม่

 

สำหรับ ตัวอย่างคลิปวีดีโอ ความยาว 3 นาที ข้างล่าง ผมเลือกอันที่อยู่ในที่มืดและสว่างมาให้ชมครับ แต่น่าเสียดายนิดนึงคือ
กระจกหน้ารถไม่ได้เช็ดให้สะอาด และ รถคันนี้ติดฟิลม์กรองแสง 40% แบบใสตัดแสง UV ที่หน้ารถครับ ไฟล์นี้เป็น format AVI ความยาว 3:02 นาที และ มีขนาดประมาณ 460MB เลยทีเดียวครับ
กว่าจะอัพเสร็จนานเลยทีเดียว ผมอัพเต็มขนาด 1080p เวลาชมในยูทูป ให้เลือก 1080p ตรงฟันเฟืองแล้วเปิดเต็มจอครับ ถ้าเน็ตและเครื่องคุณเร็วพอภาพจะไม่กระตุกเลยครับ

เป็นคลิปที่ผมไม่ได้ตั้งค่าอะไรเลยครับ จริงๆแล้วมันจะมีการให้ตั้งเกี่ยวกับการจับภาพวีดีโออีก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อคุณภาพได้เช่น ค่า EV (Explosure Value) เพื่อตั้งค่ารูรับแสงเป็นต้น, อีกทั้งไม่ได้หาตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในรถคันนี้ คือ เข้ามานั่งก็แปะกระจกหมุนกล้องไปกลางรถแล้วเปิดใช้เลย จริงๆน่าจะหาตำแหน่งที่ดีๆ มุมแสงสะท้อนน้อยๆเป็นต้น ครับ

 

ผมทำแค่รีวิวครับ ไม่ใช่ผู้ขายจึงไม่ได้สอนวิธีใช้ จริงๆหลังได้ลองใช้ยังมีเรื่องอีกมากเลยที่อยากจะเขียน แต่ไม่ไหวครับคงต้องขอพักก่อน
คุณสมบัติเด่น

• บันทึก Video Full HD 1080p พร้อมเสียง
• ถ่ายภาพนิ่งได้ แถมมีระบบ auto focus face detection เมื่อจับใบหน้าด้วย
• มี Infrared LED ส่องสว่างในที่มืด เหมาะกับตอนถือถ่าย (แต่ผมยังหาวิธีเปิดแบบอัตโนมัติไม่ได้ ตอนนี้ต้องเปิดเองโดยกดปุ่ม power ขณะถ่าย)
• จอภาพ คุณภาพดี แม้จะเล็ก แต่เหมาะสมกับการเป็นกล้อง DVR ที่ควรจะขนาดเล็กไม่บดบังหน้ารถ
• มีระบบ G-Sensor (ยังไม่ได้ทดสอบ) และ Motion Sensor (หยุดบันทึกเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหว)
• สามารถแบ่งไฟล์เป็นไฟล์ละ 3 นาที และเริ่มไฟล์ใหม่แบบ ต่อเนื่องไร้การขาดตอน (Seamless) เพื่อไม่ให้ไฟล์ใหญ่เกินไป
• ใช้เป็น Webcam คุณภาพสูงได้ด้วย
• รองรับ memory Micro SD ได้สูงสุดถึง 32GB เพียงพอในแต่ละวัน และการบันทึกจะเป็นแบบหมุนวนทับไฟล์ของเก่า
• ทำงานได้รวดเร็วมาก ใช้เวลาประมาณ 2-3 วินาทีก็ boot เครื่องเสร็จ
• ภาพวีดีโอที่ได้คุณภาพรับได้ ไม่สั่นไหว และ ราบรื่นไม่สะดุด
• เมื่อเสียบที่จุดบุหรี่ในรถ หลังจากสตาร์ทรถ กล้องจะเปิดเครื่องและเริ่มบันทึกอัตโนมัติทันที และจะดับเองหลังจากดับเครื่อง

ข้อด้อย

• ภาพที่ได้แม้จะมีความละเอียด Full HD แต่หลังจากทดสอบแล้วไม่คมชัดเท่าที่ควร, ป้าย ทะเบียน จะเห็นก็เมื่อเข้าใกล้ประมาณ 7-10 เมตร หรือในบางแสงจะเห็นไกลอีกหน่อย
• ภาพนิ่งคุณภาพแย่ (แย่กว่าวีดีโอ)
• ไมโครโฟน มีความไวสูงไป จนได้ยินเสียงลมแอร์เสียงซ่ารบกวนเยอะไป (อาจจะมีวิธีปรับ)

ข้อที่ควรพิจารณา (อาจจะดี และ ไม่ดี ตามการใช้งาน)

• แบตเตอร์รี่ในตัว หาซื้อเปลี่ยนเองไม่ได้ ต้องใช้ช่างหรือความรู้เรื่องวงจรถ้าจะเปลี่ยน
• ความจุแบตเตอร์รี่น้อยไปนิดหน่อย สามารถใช้ได้เพียงประมาณ 30-40 นาที (บันทึกแบบ Full HD) แต่โดยปกติเสียบสายในรถได้ก็ไม่มีปัญหา
• Infrared LED สว่างน้อยและเพียงระยะใกล้ (ไม่เชิงจุดอ่อน เพราะรถมีไฟหน้าอยู่แล้ว)
• ไม่มีบริษัทผู้ผลิตชัดเจน จึงไม่ทราบว่า จะมี firmware ใหม่ๆอะไรไหม?

 

สรุปจากความคิดเห็นส่วนตัว

สำหรับการสรุปคะแนนในตอนนี้ คุณภาพวัสดุดูดี และเนื่องจากซื้อมาในราคาแค่ 1100 บาท (ซื้อพร้อมกันหลายตัว แบบไม่มีประกัน ต้องทดสอบหน้าร้านอยู่นานพอสมควร แต่ไม่ได้ลองเอาเข้าคอม) และมันทำงานได้ตรงตามที่อ้างไว้ในสเป๊ค  ผมก็จึงให้ 8 คะแนนครับ

เพราะจากการศึกษาค้นหาข้อมูลเบื้องต้นพบว่า มีกล้องติดรถราคาประมาณ 1000 บาท (+/- 400 บาท) บางตัวบางรุ่นจะมีปัญหาสู้แสงไม่ได้ ประมาณว่าเมื่อเจอแสงแดดภาพจะขาวสว่างจนมองอะไรไม่เห็นเลย แต่สำหรับตัว c600 ตัวนี้ไม่มีอาการเช่นนั้นเลย ครับ ตั้งแต่ทดลองใช้มา ไม่เคยมีอาการรวนหรือแฮงค์ให้เห็นเลยครับ ทำงานได้ดีมากๆ (Firmware ของเดือน 3 ปี 2013)

เพิ่มเติมนะครับ

นี่ยังเป็นเพียงการรีวิวเบื้องต้นเท่านั้น เพราะได้ทดลองแค่ 1-2 วัน ยังมีอีกหลายจุดที่ไม่ได้ทดลองให้เห็น แล้วผมจะกลับมาเขียน เพิ่มจุดสำคัญๆเมื่อมีเวลาอีกนะครับ.

เพิ่มเติมนะครับ

ใช้มาแล้ว 6 เดือน กล้องตัวนี้ทำให้ผมประหยัดเงินในกระเป๋า จากการเดินทางไกลไปต่างจังหวัด แล้วสองครั้งครับ จากเหตุการณ์ที่คุณๆผู้ขับรถทางไกลบ่อยก็จะรู้ว่าอะไร ^^.

เพิ่มเติมอีกครับ

ผมได้มีโอกาสไปซื้อกล้องตัวนี้อีกอัน เพื่อนำไปใส่ไว้ในรถอีกคันนึง แต่พอไปซื้อพบว่า กล้อง c600 รุ่นนี้ถือว่ายอดนิยมทีเดียวครับที่คลองถม, มีขายกันแทบทุกร้าน, เลยยอมเสียเวลาเดินหาร้านที่ราคาดีที่สุด แล้วก็ขอเอามาลอง ก็เลยพบว่า ของที่วางโชว์บนตู้ (ซึ่งผมดูแล้วมันเหมือนของผมเป๊ะๆ) กับของที่แกะกล่อง หน้าดาเดียวกัน แต่มันต่างกันครับ, ได้ทีก็เลยขอเอาแกะกล่องมาเทียบกับตัวที่โชว์ มันไม่เหมือนกันครับ ไปอีกร้านตัวโชว์เหมือน แต่แกะกล่องมาก็ไม่เหมือนกันอีก

สรุปได้ว่ากล้องรุ่นนี้ ในตลาดมันมีหน้าตาเดียวกันกับของผมที่รีวิว แต่มันไม่เหมือนกันครับทั้ง software และ คุณสมบัติ, ผมไม่ได้จะมาบอกว่าตัวที่ผมรีวิวดีที่สุดนะครับ แต่กำลังบอกว่า เห็นบางท่านมีปัญหาการใช้งาน แล้วเข้ามาสอบถามข้อมูล มันเป็นไปได้ว่า มันมากันจากคนละโรงงานครับ จึงขอเขียนข้อแตกต่างที่ต้องสังเกตุถึงจะเห็น ดังนี้

1. เลนส์กล้องต่างกันครับ ของที่ผมรีวิว มันจะมีขอบแหวนเหล็กนูนเกินกระจกเลนส์ออกมาหน่อยนึง (ดูภาพที่ผมรีวิวข้างบน นะครับ)
แต่ของแกะกล่องร้านแรก หน้าตาเดียวกันเป๊ะ แต่เลนส์จะไม่มีแหวน โดยจะเป็นกระจกเลนส์จะเรียบๆแบนๆ (เทียบมุมกล้องโดยเปิดสองเครื่องที่ร้านเทียบกันแล้วแคบกว่าตัวที่ผมรีวิว)
ของแกะกล่องอีกร้าน หน้าตาเดียวกันเป๊ะ แต่เลนส์จะไม่มีแหวน แต่จะเป็นทรงกลวยยุบเข้าไปในเครื่อง แปลกดีครับ (เทียบมุมกล้องโดยเปิดสองเครื่องที่ร้านเทียบกันแล้วแคบกว่าตัวที่ผมรีวิวเหมือนกัน)
ผมหาภาพมาได้เฉพาะรุ่นที่เลนส์แบนๆครับ ลองสังเกตุดูครับจะเห็นว่าต่างกันกับภาพที่รีวิวไปข้างบน

2. Software ต่างกันครับ, หน้าตา จะคล้ายๆกัน แต่ต่างกันตรง รูปไอคอน สีสันต่างๆ แต่ถ้าบอกแบบนี้ใครจะไปรู้เพราะไม่เคยใช้กันมาก่อน ผมจึงบอกจุดที่ชัดที่สุดคือ
ตอนเปิดเครื่อง หน้าจะจะต้องโชว์ รูปรถขึ้นมาครับ ซึ่งตัวที่ผมรีวิว มันเป็น รถรุ่น Mercedez Benz สปอร์ท กำลังซิ่ง (ถ้าคนชอบรถก็พอจะรู้ว่าเป็น เบ็นซ์ ปีกนก นางนวล รุ่นใหม่ , Mercedes 300 SL Gullwing) ตามภาพข้างล่างเป๊ะๆครับ

ส่วนรุ่นอื่นๆก็จะเป็นรถเหมือนกันแต่จะเป็นสีกับยี่ห้อแตกต่างกันไปครับ บางตัวก็จะเป็นรูปลูกโลกก็มี

3. ปุ่มต่างๆ ใช้วัสดุแตกต่างกันครับ บางตัวปุ่มผิวเดียวกับเครื่อง บางตัวผิวมันเงาๆ บางตัวคล้ายๆโลหะรมดำ
ผมเพิ่งซื้อตัวที่สามสัก เดือนกว่าๆ ก็ซื้อร้านเดิม software เดียวกัน แต่ปุ่มทั้ง 6 มันเปลี่ยนเป็นแบบเงาๆครับ

ทีนี้ก็เคลียร์กันได้ครับว่า ทำไม หลายคนมีปัญหามาสอบถาม แต่มันไม่เหมือนกัน, ผมไม่ได้บอกว่า รุ่นไหนดีกว่า หรือรุ่นที่ผมใช้ดีกว่า แต่จะบอกแค่ว่า ในตลาดมันมีหลายๆตัวครับหน้าตาเดียวกัน

ส่วนตัวผมเองแล้วท้ายที่สุดผมก็เดินจนหารุ่นที่เหมือนกับที่ผมรีวิวครับ เพราะมั่นใจว่าโอเคสำหรับผม เพราะใช้มานานหลายเดือนแล้ว ไม่เคยถอดไม่เคยกด ไม่เคยดึงปล๊กออก มันก็ยังทำงานของมันไปเรื่อยๆครับ

เพิ่มเติมอีกครั้งครับ
หลังจากทำรีวิวกล้องตัวนี้ไป ก็กลายเป็นบทความรีวิวที่มีคนเข้ามาชมเยอะที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังหาช๊อปกล้องติดรถอยู่ แล้วก็พบว่าปัจจุบัน ดูเหมือน ที่ระดับราคาตอนนี้ แค่ 700-900 บาท รุ่น C600 นี้ ถือว่าฮิตที่สุดในระดับราคาเดียวกันเลยครับ (อย่าเอาไปเทียบกับของระดับราคาคนละระดับนะครับ) ดังนั้นจึงมีของเข้ามาขายในบ้านเรามากมาย เรียกได้ว่าทุกร้าน จะต้องมี c600 ตัวนี้ขาย แล้วก็คงมีการโฆษณาบลัฟกันไปมาระหว่างผู้ขายกันเยอะเลยต่อจากนี้ไป.

แต่อย่างที่บอกไปครับ หน้าตาผิวเผินเหมือนกัน หลายคนก็ต้องมีคำถามละว่า DVR blackbox c600 ของแท้มันเป็นอย่างไร? หรือวิธีเลือกซื้อ c600 ของแท้? ขอตอบตรงนี้เลยแล้วกันว่า ทุกๆตัวของแท้หมดครับ เพราะทุกๆตัวไม่มียี่ห้อ ไม่มีชื่อบริษัทผู้ผลิต เรียกได้ว่า ไร้ที่มากันก็ได้ครับ. ผมไม่สามารถบอกได้ว่า ตัวที่ผมรีวิว นั้น ดีที่สุดดีกว่าตัวอื่นๆ แต่ที่ผมซื้อตัวที่ software เหมือนเดิม 3 เครื่อง เพราะผมยังมั่นใจรุ่นที่ผมใช้ครับ แบบว่าเสียบทิ้งไว้ให้มันทำงานแล้วก็ลืมมันไปได้เลย.

—