มาแล้วครับ การรีวิวที่ สาวๆ สวยๆ หนุ่มๆ หล่อๆ รอคอยกันครับ. เป็นการรีวิวในสิ่งที่ผมไม่ค่อยถนัดเลยเรื่องความสวยความงามเนี่ย แต่เพราะมันมาถึงมือคนรอบๆตัวผมเลยต้องจัดการเอามาทำรีวิวกันซะหน่อย
ได้มาสักเดือนกว่าๆแล้วนะครับ ถ่ายภาพเอาไว้นานแล้ว แต่ว่าเพิ่งมีเวลามานั่งเขียนบทความก็วันนี้ เพราะการจะเขียนบทความก็ต้องหาข้อมูลลึกๆกันหน่อย เพราะเราไม่ได้เป็นผู้ขายครับเราเป็นผู้ใช้แล้วอยากจะให้ข้อมูลที่แท้จริงกับผู้สนใจครับ
ตัวผมเองไม่ใช่ผู้ใช้นะครับ เพราะดูจากสภาพผิวตัวเองแล้ว มันไม่มีอะไรจะเสียไปกว่านี้แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พวกนี้ ^^
สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็น อุปกรณ์ช่วยในเรื่องความสะอาดบนใบหน้า เรียกได้ว่าเป็น เครื่องมือ ล้างรูขุมขนบนใบหน้า แห่งปี เลยทีเดียวครับ ฮิตมากในเน็ต หมู่ชาวโต๊ะเครื่องแป้งแวดวงต่างๆ มันเหมือนเป็น นวัตกรรม ใหม่ที่พัฒนามาจากสิ่งที่มีอยู่แล้วมาปรับปรุงเพิ่มเติมแล้วคาดว่าจะให้ผลที่ดีหลังการใช้งาน. เรามาชมกันเลยครับผม
หน้ากล่องครับ ที่เห็นยับเยินตรงมุม ไม่ใช่ตัวกล่องนะครับแต่เป็นพลาสติกหุ้มกล่องอีกที มันเยิน ถ้าลอกออกก็ใสปิ้งครับ
ชื่อเต็มๆ “Pobling – Color – Pore Sonic Cleanser” หรือ “โพบลิ้ง คัลเลอร์ พอร์ โซนิค คลีนเซ่อร์” หรือแปลได้ว่า เครื่องทำความสะอาดรูขชุมขนระบบสั่นสะเทือน
ต้นตำหรับจากเกาหลีครับ บริษัทชื่อ Habalan. หลังกล่องก็แค่อธิบายว่า ใส่ถ่านอย่างไร และคำแนะนำนิดหน่อย เช่น
– หลังจากใช้แล้ว ให้ล้างหัวแปรงด้วยน้ำอุ่น เพื่อให้คงประสิทธิภาพในคราวหลัง
– ทำให้แห้งโดยใช้ผ้าเช็ดตัวหรือกระดาษทิชชู่ แล้ววางไว้ในที่ระบายอากาศที่ดี
– ไม่นำไปใช้เพื่อการอื่น นอกเหนือจากทำความสะอาดรูขุมขน (Pore cleansing)
– อย่าดัดแปลง อย่าถอดชิ้นส่วน หรือ อยู่ในที่ความร้อนสูง
– เก็บให้พ้นมือเด็ก
มีมาแค่นี้ครับ คือ ตัวแปรง และ ฐานตั้ง
เนื่องจากเป็นรุ่น Color ครับ เค้าซื้อมาสองสีครับ คือ สีทอง และ สีฟ้า สลับทอง
เท่าที่ค้นมาถ้าเป็นรุ่นธรรมดาดั้งเดิม จะเป็นแค่สีขาวเนื้อพลาสติกสลับขอบทอง
วัสดุดูดีมากๆครับ สีชุบมาอย่างหนา ก็คงเพราะมันต้องโนน้ำตลอดเวลาในการใช้งานแน่ๆ
การสกรีนโลโก้ ยี่ห้อ ดูน่าเชื่อถือว่า ไม่ได้ทำมามั่วๆ
รูปทรงด้านข้างครับ คือยื่นๆนิดนึง
ด้านหลังครับ ดูดี สวยงามทีเดียว
มาที่จุดสำคัญของเครื่องนี้ครับ นั่นคือ หัวแปรง ซึ่งเป็นแบบขนเล็กเรียวมากๆครับ ค้นข้อมูลมาแล้วเค้าไม่บอกขนาดครับ บอกแค่ว่า
เป็นเส้นขนาด ไมโครเมตร ซึ่งผมถ่ายภาพมาให้แบบชัดกว่านี้ไม่ได้เพราะกล้องไม่ค่อยดีครับ แบบว่ามันเล็กจิ๋วมากๆครับ ประมาณ 1 ใน 5 ของเส้นผมเราครับ
หน้าแปรงค่อนข้างกว้างครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาวกไปวนมาบนใบหน้าเราเยอะ
ดูเนื้อสีเคลือบครับ มันหนาพอสมควร ที่เห็นเป็รรอยๆคือคราบนิ้วมือครับ ลืมเช็ด
ด้านล่างครับ, ผลิตใน เกาหลี ใช้แบต AAA (ก้อนเล็ก)
ถอดชิ้นล่างง่ายๆครับ แค่หมุนเบาๆ จะเห็นรางถ่าน
ใส่ถ่านก็ตามภาพครับ เอาตูดถ่านใส่ตรงสปริง จริงๆจะกลับด้านก็ได้ไม่มีปัญหา
ไม่มีรูนะครับ ส่วนฐาน ดังนั้น ห้ามเอาไปจมน้ำเด็ดขาด น้ำเข้าแล้วมันจะไม่ระบาย
พยายามถ่ายที่หัวอีกครั้งครับ
เรามาดูต่อข้างล่างเรื่องมิติครับ
ความสูงโดยประมาณ 16 เซ็นติเมตร
ฐานกว้างประมาณ 3.4 เซ็นติเมตร
หัวแปรงกว้าง 4.8 เซ็นติเมตร
ลองประมาณดูครับ ว่า 4.8 เซ็นติเมตร ขนเยอะแน่นขนาดนี้ แสดงว่าเล็กขนาดไหน
ลืมบอกไปว่า ขนมีปลายเรียวแหลมครับ คล้ายๆ แปรงสีฟัน ซิสเต็มม่า ที่โฆษณาครับ แต่ขนเล็กกว่าเยอะ
ภาพนางแบบครับ เนื่องจากนโยบายความเป็นส่วนตัว จึงไม่อาจเปิดเผยหน้าตานางแบบได้ครับ
เวลาใช้ เอาแปรงชุบน้ำก่อน จากนั้น ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าแล้วปล่อยให้หน้าเปียก จากนั้นเราจะใส่โฟมหรือครีมล้างหน้าบนหัวแปรง หรือจะทาที่ใบหน้าที่เปียกๆไว้ก่อนก็ได้ครับ
เมื่อเปิดเครื่อง คุณจะรู้สึกเหมือน โทรศัพท์มือถือระบบสั่นครับ มือถือคุณสั่นอย่างไรก็อย่างนั้นเลยครับ ถ้าจะเทียบให้ชัดอีกหน่อย มันเหมือน แปรงสีฟันไฟฟ้า ระบบสั่น ครับ (แปรงสีฟันมีระบบ หัวแปรงหมุนได้ กับสั่นอย่างเดียว)
สั่นไปถึงปลายขนแปรง ซึ่งแน่นอน ปลายขนแปรงเล็กขนาดนั้น มันจิ้มเข้าไปถึงบริเวณปากรูขุมขมของคุณแน่ๆครับ แล้วเมื่อมันสั่นสะเทือน มันก็ต้องไปปัดเศษสิ่งสกปรกให้หลุดออกมาแน่นอนครับ แนะนำว่าอย่าใช้บริเวณหนังตาครับหรือรอบดวงตานะครับ เพราะบริเวณนั้นมันบอบบางที่สุดบนใบหน้าเราครับ
การสั่นสะเทือนสินค้านี้เค้าเรียก Sonic ครับ เค้าอ้างว่า มันสั่นถึง 10,000 ครั้งต่อนาที (10,000 vpm หรือ vibrate per minute) คิดว่า คงอ้างคำว่า Sonic มาจาก Sonic Frequency (ความถี่ของคลื่นเสียง) นะครับ เสียงที่ประสาทหูของคนเราได้ยินสูงสุดที่ 16KHz (16 กิโลเฮิทซ์ หรือ 16,000 เฮิทซ์) สำหรับผู้ใหญ่ หรือ 20KHz (20,000 เฮิทซ์) สำหรับเด็กน้อย ถ้าความถี่เกินนี้เราจะเรียกว่า Ultra-Sonic (อัลตร้าโซนิค หรือ อุลตร้าโซนิค) ที่หูเราจะรับรู้ไม่ได้ ซึ่งคงวัดกันยากหน่อยเพราะต้องมีเครื่องมือวัดจำนวนครั้ง ผมคิดว่ายังไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น อุลตร้าโซนิคนะครับ เพราะยังไม่เกิน 16,000 ครั้งต่อนาที แต่คิดว่า เรียกว่า โซนิค เฉยๆคงไม่ผิดนัก
ข้อเสียจุดนี้ก็มีครับ คือ ปุ่มมันเป็นยาง (รูปข้าวหลามตัด) มันกดลึกและยากหน่อยครับสำหรับคนนิ้วใหญ่ จริงๆควรออกแบบมาให้กดง่ายกว่านี้
ผมไม่แน่ใจว่ามันจะมีผลเสียต่อผิวหนังหรือไม่ เพราะคนเรา ผิวหน้า ไม่เหมือนกันบางคนบอบบางสุดๆ ผิวแห้ง ผิวมัน มันบางส่วน สิวผด สิวอักเสบ โอ้ย เยอะแยะครับ
เคยเห็นมีการเดโมด้วยภาพ การทารองพื้นบนผิวส้ม แล้วใช้มือล้างมันจะไม่สะอาด เพราะรองพื้นจะยังติดอยู่ในรูเปลือกส้ม แต่ถ้าใช้แปรงมันก็จะขจัดออกได้หมด ซึ่งก็น่าจะเป็นจริงตามนั้นครับ แม้ว่ารูขุมขนเราเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับเปลือกส้ม แต่ก็มาเจอปลายขนแปรงอันนี้ที่ีจิ๋วเหมือนกัน ก็น่าจะทะลวงลึกทุกซอกทุกมุมของรูขุมขนหรือเส้นลายผิวอย่างไม่มีปัญหาครับ ผมว่า ไม่ต้องสั่นก็ได้ถ้าเจอแปรงขนจิ๋วขนาดนี้
ถึงเวลามันก็มีเสียมีรวนนะ
หลังจากที่ใช้มาหนึ่งเดือน ผู้ใช้แจ้งว่า รู้สึกดีกว่าใช้แค่มือ หรือแปรงธรรมดาครับ สาเหตุหลักคือ เพราะปลายขนแปลงมากกว่าการสั่นครับ ใช้แบบไม่ต้องเปิดเครื่องก็ได้ ดีกว่าใช้มือเปล่าๆ แต่ถ้าเปิดสั่นแล้วใช้เสร็จ รู้สึกเหมือนนวดหน้าขัดหน้ามา ทำให้รู้สึกสบายหน้า และหน้าตึงครับ
เอาละครับ มาถึงจุดนี้ ผมคิดว่า เกือบทุกๆคนที่ใช้เครื่องนี้ คงต้องเจอปัญหากันบ้างไม่ช้าก็เร็ว นั่นคือ เครื่องเสียครับ, ล๊อตที่ซื้อมานี้ 3 เครื่อง ใช้กันอยู่ 2 เครื่อง ทั้งสองเครื่อง
ใช้เช้าเย็น ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ปุ่มเปิด/ปิด มันรวนครับ กดติดบ้างไม่ติดบ้าง บางทีกดไปแล้วไม่รู้ว่าเปิดหรือปิดอยู่วางไว้สักพักมันก็สั่นเองเป็นต้น
ทีนี้ก็มาถึงมือผม ให้มาตรวจดูเพราะเค้าเห็นว่าผมเป็นเรื่องคอมพิวเตอร์ จริงๆ ผมเรียนจบ Computer Science ไม่ใช่ Electronic นะคร้าบ ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าผมลองเปิดดูแล้วก็ถึงบางอ้อครับ ภาพข้างล่างเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ที่เครื่องมีปัญหานะครับ เครื่องไม่เป็นอะไรอย่าไปแกะครับ ปกติแล้วผมก็ไม่แกะถ้าไม่เสียครับ หรือถ้าเสียและมีประกันผมก็จะส่งไปเครม แต่กรณีนี้พิเศษเพราะส่งกลับไปก็อาจจะไม่คุ้ม ค่าเดินทางค่าส่ง เลยลองแกะดูครับ
แกะเครื่องออกจากกรอบมันง่ายมากๆครับ กดตัวล๊อกที่ขอบมันก็หลุดมาทั้งยวงแล้ว
ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ระบบสั่นคือ ระบบ มอร์เตอร์ติดหัวลูกเบี้ยว นั่นเองครับ หรือมอร์เตอร์ระบบสั่นที่อยู่ในมือถือนั่นแหละครับ
ทีนี้ ไอ้จำนวน 10,000 ครั้งต่อนาที ที่เค้าบอก ก็คือต้องมาวัดจำนวนรอบที่มอร์เตอร์ตัวนี้ครับ ผมไม่มีเครื่องมือวัดรอบจึงทำไม่ได้
นี่ครับ ตัวเจ้าปัญหา คือ สวิตช์ (ปุ่มขาวขอบเทา) ที่ติดกับเมนบอร์ด ซึ่งเป็นเมนบอร์ดจริงๆครับ แต่บอร์ดกับสวิตซ์ ไม่มีสิ่งอื่นใดบนบอร์ดเลย
ก็หมายความว่า แบตเตอร์รี่ จะใส่กลับขั้วหรือถูกขั้วก็ได้ แค่มอร์เตอร์หมุนกลับกันเท่านั้นเอง
เปิดตัวกรอบสวิตช์ง่ายมากครับ งัดกรอบสีเทาเบาๆมันก็ออกมาแล้ว อาจจะใช้พวก ไม้แคะหูปากงอแบนๆ หรือ ไขควงจิ๋วก็ได้ครับ
แต่ต้องเบามือมากๆครับ แค่ง้างๆทีละนิดเบาๆ ทำแรงขาถ้ามันหักขึ้นมา งานเข้าครับ มันจะใส่กลับไปไม่ได้มันจะไม่ล๊อก
ชิ้นส่วนภายในมีแค่นี้ครับ แนะนำว่าตอนจะแกะ ให้แกะใน กล่องใหญ่ๆ เพราะชิ้นส่วนมันเล็ก เดี๋ยวมันเด้งหายไปงานจะเข้าได้
สังเกตุที่กล่องดำ จะมีเส้นเหล็กสลักเหมือนเข็มอยู่ด้วยนะครับ ระวังมันหลุดหายไปนะครับ มันเล็กมากๆ
แกะแล้วก็ถึงบางอ้อครับ ในกล่องสวิตช์เนี่ยแหละครับ ตัวปัญหา คือตัวแถบ คอนแทก (contact) ที่อยู่ภายในมันเหมือนขึ้นขี้เกลือหรือสนิมครับ ปุ่มมันเลยไม่นำไฟฟ้า เราต้องทำความสะอาดจุดนี้ครับ
วิธีก็ง่ายๆ แค่เอาทิชชูชุบแอลกอร์ฮอร์ ใช้ไม้จิ้มฟันขัดๆถูๆเช็ดๆภายในมันครับให้ contact มันเงาสะอาดๆ เท่าที่จะทำได้ก็พอ
โปรดระวัง : ในกล่องนี้มันจะมีเข็มเป็นสลักล๊อกปุ่ม ตอนกดหรือปล่อย อยู่ครับ ระวังเข็มมันหลุดหายไปครับระหว่างเช็ดครับ
เช็ดทำความสะอาดคอนแท็ค เสร็จ วิธีกระกอบก็ง่ายๆครับ ใส่สปริงตรงกลางแล้วกดปุ่มสวิตช์เข้าไปให้มันล๊อกกับสลักเข็มมันก่อน
จากนั้นก็คือใส่กรอบทีเทาเข้าไปครับ เอาแปรงปัดทำความสะอาดขี้ฝุ่น นิดหน่อยแล้วประกอบเข้าตัวบอดี้ ก็เสร็จพิธี ทีนี้ทำความสะอาดครั้งเดียวก็ใช้กันยาวเลยครับ
——-
สรุปนะครับ :
ผมคิดว่าหลายๆคนโดยเฉพาะผู้ชายทั้งแท่ง คงนึกในใจว่า แค่ล้างหน้าเนี่ยนะถึงกะต้องซื้อแปลงมาล้าง ผมก็แนะนำให้เทียบว่าเหมือนกับอาบน้ำล้างตัวครับ ใช้สบู่ถูๆกับมือหรือถูๆตัวเลย มันไม่สะอาดเท่ากับถ้าใช้พวก แปรง/ใยบวบ หรือใยที่ใช้อาบน้ำขัดตัวครับ ใครไม่เคยใช้แนะนำอย่างยิ่งให้ไปซื้อมาใช้ครับ มันจะทำให้ประหยัดสบู่ถูตัวไปเยอะมากๆครับ ใช้สบู่ได้อย่างคุ้มค่าและสะอาดเอี่ยมสบายตัวกว่ากันเยอะครับ แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่าโอวร่างกายเราที่สะอาดมันต้องแบบนี้
แปรงล้างหน้าไฟฟ้าตัวนี้ ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในไทยครับ มีแต่คนหิ้วเข้ามาขาย ดังนั้น ราคาจึงหลากหลายมากๆครับ เวลาซื้อก็ลองพิจารณาด้วยความรอบคอบครับ หาข้อมูลเยอะๆก่อนซื้อกันนะครับ
จุดเด่น
- เป็นอุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดได้หมดจดกระจ่างใสกว่าใช้มือจริงๆ ตามคำโฆษณา
- ขนแปรงขนาดเล็กมากๆ จึงเป็นไปได้ที่ทำความสะอาดถึงปากรูขุมขน คนผิวมันเหมาะสมอย่างยิ่ง
- วัสดุสวยงาม คุณภาพดูสมราคา
- พกพาสะดวก
จุดด้อย
- อาจจะไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว เช่นคนผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือสิวอักเสบ
- สวิตช์ในเครื่องมีปัญหาหลังจากใช้ไปช่วงเวลาหนึ่ง (สำหรับเครื่องของผู้ทำรีวิว), แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นทุกเครื่องหรือไม่
จุดที่ต้องคำนึงก่อนการซื้อมาใช้
- หาซื้อหัวแปรงจะยากหน่อย และก็ถ้าเจอราคาก็เกือบจะซื้อใหม่ทั้งอันได้เลยครับ
- เรายังไม่ทราบผลว่า หัวแปรงใช้ได้นานเท่าไหร่กว่ามันจะเสื่อมสภาพ อาจจะ 3-5 เดือน หรือ 7-10 เดือนได้หรือไม่ก็ไม่ทราบครับ ตอนนี้ใช้มาเดือนกว่า เช้าเย็น ก็ยังสภาพดีอยู่
- ไม่แน่ใจว่า ผิวชนิดไหน ควรใช้ หรือไม่ควรใช้ครับ แต่ที่แน่ๆคือผิวที่เป็นสิวอักเสบเป็นแผลเยอะๆผมไม่แนะนำครับ ส่วนผิวแห้งก็ไม่แน่ใจว่ามันจะทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมหรือไม่ เพราะมันก็แค่ช่วยล้างหน้าไม่น่าเกี่ยวกับหน้าแห้ง
สิ่งที่ ไม่ขอยืนยัน สำหรับผลหลังจากใช้ ว่าได้ผลหรือไม่ นะครับ เพราะร้านค้าหลายร้านจะโฆษณาเอาไว้ เช่น
- ช่วยลดสิว ไม่ว่าสิวผด สิวหัวดำ ไขมันในรูขุมขน หรือสิวชนิดใดๆก็ตาม
- ลดรอยด่างดำ
- ช่วยลดริ้วรอย ทำให้ผิวตึง
- ช่วยให้รูขุมขนเล็กลง ใช้ไปนานๆแล้วทำให้ความมันบนใบหน้าลดลงเพราะรูขุมขนเล็กลง ซึ่งผมว่าแค่ทำความสะอาดมากกว่าเดิมมันไม่น่าเกี่ยวกับขนาดรูขุมขน
- ช่วยให้ครีมบำรุงซึมซาบมากกว่าเดิม ซึ่งมันย้อนแย้งกับทำให้รูขุมขนเล็กลง เพราะ เมื่อรูขุมขนเล็กลงแล้วครีมจะซึมซาบมากกว่าเดิมได้อย่างไร
ผมขอบอกอีกครั้งว่า ไม่ยืนยันว่าทำได้ หรือไม่ได้ นะครับ
สิ่งที่ ยืนยันแน่ชัด ว่ามันช่วยได้คือ
- ทำความสะอาดได้ดีกว่าใช้มือเปล่า จริงๆครับ คุณผู้หญิงที่ใช้พวก รองพื้น ลิปสติก ทาสีด้วยเครื่องสำอางค์สารพัดชนิดบนใบหน้า สอบถามแล้วพบว่าแปรงนี้ช่วยได้จริงๆ แค่ใช้โฟมล้างหน้าคุณภาพดี เผลอๆอาจจะไม่ต้องใช้พวก โทนเนอร์ ให้แสบผิว อีกต่อไปเลยก็ได้ครับ
——-
ขอบคุณมากครับที่ แวะมาชมรีวิวครับ
