อัน ยอง ฮา เซ โย ^^ กลับมาอีกครั้งค่ะ มาคราวนี้ Jikky จะพาไปชม การรับประทานอาหารเกาหลีสูตรต้นตำหรับ ที่ร้าน เจิงจู ย่านวังหินค่ะ อาหารที่นำมาให้ชมวันนี้คือ “เจิงจูจอลโกล” หรือ หม้อไฟเจิงจูนั่นเองค่ะ อยากลองมานานแล้ว และแล้ววันนี้ก็มาถึง >_< ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ กระทัดรัด ตั้งอยู่ในซอย ลาดพร้าว – วังหิน 52 รถติดหน่อยนะคะ ถ้าไม่ได้อยู่แล้วนี้ก็อาจเดินทางเหนื่อยหน่อย ที่จอดรถไม่มีค่ะ ต้องจอดข้างทาง มาดูบรรยากาศภายในร้านกันเลยนะคะ
โต๊ะจะมี 2 แบบค่ะ แบบนั่งกับพื้นแบบนี้ คุณ Jikky ได้นั่งโต๊ะแรกในรูปเลยค่ะ อิชั้นเรียกว่า โต๊ะเหน็บ เพราะทานเสร็จ มีอาการเหน็บกินนีสส์นุง อิ อิ
อีกแบบ เหมาะกับ คนอายุย่างเข้าเลข 3 มาก ๆ ค่ะ นั่งเก้าอี้สบาย ๆ แต่ตอนไป โต๊ะแบบนี้เต็ม เลยต้องนั่งแบบ โต๊ะเหน็บ (กิน) -_-‘
ก่อนอื่นมาดูประหวัดของร้านกันก่อนนะคะ เป็นความรู้ประดับสมอง สรุปย่อ ๆ ก็คือ เจินจู เป็นชื่อเมืองเก่าแก่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลี ซึ่งปัจุบันถูกอนุรักษ์เป็น หมู่บ้านเจินจู และเป็นหนึ่งใน มรดกโลกซะด้วยนะคะ ไม่ใช่มูล ๆ นะเนี่ย นอกจากนี้ หมู่บ้าน เจินจู ยังมีเมนูสุดยอด คือ “นัมโนคัลบี้” หรือ หม้อไฟหมูหมักที่เรากำลังจะลิ้มลองกันนี่เอง ซึ่งเป็นเมนูในตำนานมากว่า 50 ปี และหาทานได้ที่ เจินจู เท่านั้น ซึ่งทางร้านได้นำมาให้คนไทยได้ลิ้มลอง ภายใต้ชื่อว่า เจินจูจอลโกล หรือ แกงเจินจูนั่นเองค่ะ
บรรยากาศในร้านอีกซักรูปค่ะ มีไม่กี่รูปเพราะร้านไม่ใหญ่โตอะไรค่ะ บรรยากาศอบอุ่นเหมือนทานอยู่บ้าน
เมนูเด่นของร้านนี้ แน่นอนค่ะ “เจิงจูจอลโกล” จะมีให้เลือก 2 ขนาดนะคะ M สำหรับ 2 คน L สำหรับ 3-4 คน เย้ ๆ ในที่สุดก็ได้ชิม
มีเมนูอื่นให้สั่งอีกพอสมควร ดูแล้วก็อยากลองไปหมด แต่ลอง หม้อไฟ เป้าหมาย ของเราก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับมาสั่งเพิ่ม
เหลือบไปเห็นป้ายอีกด้าน ว่าพลาดไม่ได้ คือ ข้าวผัดเจิงจู หลังจากการทางเจินจูจอลโกล โอเคร เดี๋ยวเจอกัน หุ หุ
เตาไฟฟ้าค่ะ ไม่ร้อน นั่งทานในห้องแอร์ สบาย ๆ จริง ๆ ทางร้านมีโต๊ะนั่งด้านนอกแบบ open air ด้วย แต่ด้วยอากาศ บ้านเรา อย่าเสี่ยง !!!
เครื่องเคียงจะมีให้ 1 ชุดค่ะ มีกิมจิ พอหยุมหยิม ไข่คล้ายไข่หวานของญี่ปุ่น แต่รถเหมือนไข่เจียวบ้านเราค่ะ มีมาพอให้กินติดฟัน แล้วก็มีกุ้งฝอยรสหวาน ๆ เค็ม ๆ อร่อยดีค่ะ
แล้วก็มีโกชูจัง (น้ำจิ้มพริกเกาหลี) พริกชี้ฟ้าหั่น และ กระเทียมสดเพิ่มพลัง เอ้ย เพิ่มรสชาติคร้าาาาา
มาแว้วววววว !!! พระเอกของเรา เจินจูจอลโกล ตอนยังไม่สุข หน้าตาก็จืด ๆ ดูไม่มีสีสรร ประกอบไปด้วย วุ้นเส้นเกาหลี เห็ดชนิดต่าง ๆ ถั่วงอกหัวโต ต้นหอม แครอท และ หมูหมักด้านล่างค่ะ พอน้ำซุปเริ่มเดือด สีของหมูหมัก และ น้ำพริกที่อยู่ก้นหม้อก็ กระจายไปทั่วหม้อ สีสรรดูค่อย ๆ สดใสขึ้นมาเรื่อย ๆ กลิ่นก็ โอ้ววว หอมหวล ชวนน้ำยายไย๋ …..
นั่งรอหมู และผักสุขเข้าเนื้อ คนบ้างเป็นระยะ
แท่น แทน แท้นนนนนนน ในที่สุด สุกแล้ววววจ้าาาา ไม่รอช้า ลงมือเลย รสชาติ ไม่เผ็ดเหมือนสีที่เห็นนะคะ จะเป็นแบบฉุนเล็ก ๆ แต่หวานผัก และ น้ำต้มหมูมาก ๆ
อุ๊ย !!! ดื่มด่ำความอร่อยไปแป๊บเดียว เหลือบมาอีกที เกือบหมดหม้อ เกือบลืมว่าเราจะลอง ข้าวผัดเจินจูกันด้วย หัวใจแทบหยุดเต้น กวักมือเรียกเด็กเสริฟ กันแทบสิ้นสติ เพราะกลัวน้ำแกงระเหยหมด
แฮ่ ๆ ค่อยยังชั่ว ยังทัน น้องเด็กเสริฟ รีบเอาข้าวที่สั่ง มาโปะ เข้าไปในหม้อ อุ๊ย!! (คิดในใจ) ข้าวถ้วยนิดเดียวมากันสองคน จะพอมั๊ยเนี่ย แต่น้ำแกงเหลือน้อยข้าวเยอะกว่านี้ก็คงไม่พอ
เออใช่ ยังมี เมนูอื่นรอเราอยู่นี่นา ฮู้ ๆ เดี๋ยวเจอกานนนนน
พอโปะข้าวเสร็จ น้องเด็กเสริฟ เห็นเราสองคน ผัดข้าวเก้ ๆ กัง ๆ กันอยู่ ก็เรามันคุณหนู ไม่เคยต้องสัมผัสตะหลิวอะไรอย่างนี้อ่ะ (เปล่าหรอกค่ะจริง ๆ แล้ว งง ว่าผัดยังงัย) น้องเด็กเสริฟทนดูไม่ได้เลยเดินมาช่วยบริการผัดให้ น่ารักจุงเบย ร้านนี้ ^^ ผัดนานพอสมควร ประมาณ 5 นาที จนน้ำซึมเข้าข้าวจนทั่ว หอม อีกและ อยากกินอีกและ
ว่าแล้ว ไม่รอช้าเช่นเคย ช่วยกัน จ้วง ๆ ๆ กินข้าวผัดอย่าง อย่าง อย่าง อืมมมม …….. ไม่ค่อยอร่อยอย่างที่คิดนะ จืดไปหน่อย หรือเราเหลือน้ำไว้น้อยเกินไปไม่แน่ใจ และแล้วจุดจบก็มาถึง
เอ่อ สงสัยรอน้องเค้าผัดนานไปหน่อย น้ำย่อยเลยขาดตอน จุก กันทั้งคู่ ไปต่อไม่ไหวแล้วค่ะ เราจบกันแค่นี้เถอะ
สรุปไปกันสองคน ทาน หม้อไฟ size M + ข้าวผัด ก็จบแล้วค่ะ ไม่ต้องคิดถึง เมนูอื่นแล้ว ค่าเสียหาย สี่ร้อยกว่าบาท ก็ถูกกว่ากิน สุกี้ไทย บางยี่ห้อนะคะ อิ่มมากกกกกกก
ขอให้คะแนน 7 เต็ม 10 ค่ะ ตัดคะแนนเรื่องไม่มีที่จอดรถ และ ข้าวผัดจีดไปหน่อย
ขอบคุณที่ติดตามนะคร้าาาาา ^^