Huawei Ascend Mate Black – Valued Phablet – หัวเหว่ย แอสเซ้นด์เมท แฟบเล็ต สเปคเกินคุ้ม.

มาปัจจุบันนี้ มือถือ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้ว ในชีวิตประจำวัน มือถือก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ผลที่เห็นได้ชัดๆจากเทคโนโลยี่ที่เปลี่ยนไปเร็วมาก ก็คือ

• อัตราการเปลี่ยนมือถือของเราก็เร็วขึ้น เช่น จาก 3-4 ปี เปลี่ยนใหม่ ก็กลาย มาเป็น 1-2 ปี หรือ บางคนอาจจะ 5-6 เดือน ก็เปลี่ยนเครื่องอีกแล้ว
• ราคามือถือ รุ่นระดับกลางๆ ราคาค่อนข้างคงที่ แต่คุณสมบัติจะดีขึ้นมาก
• ปีก่อนจอขนาด 4.5 นิ้วก็เรียกว่าใหญ่แล้ว แต่ปีนี้ ถือว่าเล็กไปแล้ว

แต่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น ที่ทุกๆคนจะพบไม่ช้าก็เร็วคือ

• อายุของเราเพิ่มขึ้น สายตาเริ่มเปลี่ยน เราก็ต้องการมือถือที่ จอใหญ่ขึ้น

บางคน สายตาดี ใช้มือถือจอเท่าไหนก็ได้ บางคนสายตาไม่ดีขอจอใหญ่ๆก็พอ แต่ บางคนสายกำลังเปลี่ยนยังพอเล็งได้ ก็อยากได้จอขนาดกลางถึงใหญ่แต่ต้องความละเอียดสูงๆ
วันนี้ เรามาดูการรีวิว มือถือ จอยักษ์ สุดคุ้มค่า ขอเรียกว่า ม้านอกสายตา กันครับ รับรองหลายๆคนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องมือถือ อาจจะเกิดอยากจะใช้ขึ้นมาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ ท่านที่อยากได้จอใหญ่ๆ แต่จอชัดๆ

 

วันนี้ เป็นการรีวิว เฉพาะส่วนของ hardware ตัวเครื่องทั่วๆไปก่อน ครับ รีวิว เรื่องการใช้งานจะตามมาในไม่ช้า

กล่องครับ ดูทั่วๆไปก็ธรรมดาๆ หน้าตาเครื่องก็ธรรมดาๆ เรียบๆ รูปที่หน้ากล่องโชว์เครื่องสีขาว
เป็นมือถือ ยี่ห้อ HuaWei Ascend Mate Black (หัวเว่ย รุ่น แอสเซ้นต์เมท สีดำ) ครับ
รุ่นนี้ มีสีให้เลือก สองสี คือ สีดำด้าน (Pure Black) และ ขาวใส (Crystal White) โดยที่กล่องจะโชว์เป็นเครื่อง สีขาว เหมือนกันหมด

หลังกล่อง มี Spec เครื่อง โดยคร่าวๆ ที่เด่นๆ จะเป็นดังนี้

คุณสมบัติทั่วไป
2G Network     GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
3G Network     HSDPA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100
ชนิด SIM          Micro-SIM
ตัวเครื่อง
มิติ                   163.5 x 85.7 x 9.9 มิลลิเมตร (6.44 x 3.37 x 0.39 นิ้ว)
น้ำหนัก             198 กรัม
สีตัวเครื่อง         Pure Black, Crystal  White
จอภาพ
ชนิด                 IPS+ LCD capacitive touchscreen, 16M colors
ขนาด               6.1 นิ้ว
ความละเอียด   720 x 1280 จุด, ความหนาแน่น 241 จุดต่อตารางนิ้ว (ppi).
กระจกจอ         Corning Gorilla Glass
หน่วยประมวลผล
ชิพเซ็ต            Huawei K3V2
CPU               1.5 GHz Quad-core Cortex-A9
กล้อง

กล้องหน้า      8 MP Auto Focus with BSI
กล้องหลัง      1 MP

หน่วยความจำ
ภายนอก         รองรับ Micro SD สูงสุด 64 GB
ภายใน            8 GB, 1 GB RAM (รุ่นที่ขายในไทย เป็น 1GB ขายต่างประเทศ 2GB)

 

พลังงาน
แบตเตอรี่        Li-Ion 4050 mAh แบบภายใน เปลี่ยนเองไม่ได้
สแตนบาย       นานถึง 1100 ชั่วโมง (2G) / นานถึง 1072 ชั่วโมง (3G)
สนทนา           นานถึง 50 ชั่วโมง (2G) / นานถึง 23 ชั่วโมง (3G)

 

คุณสมบัติอื่นๆ
ระบบปฏิบัติการ Android OS, v4.1 (Jelly Bean), upgradable to v4.2.2 (Jelly Bean)
เซ็นเซอร์          Accelerometer, gyro, proximity, compass, GPS

แต่ที่เค้าเน้นหลังกล่องคือมีระบบประมวลผลเสียง Dolby Digital เหมาะสมกับคนชอบดูหนังด้วยครับ

เห็นสเปค ข้างบน ผมทำเน้นสีจุดสำคัญสีน้ำเงินเอาไว้ครับ ดูเองเถิดว่าเจ๋งใหม

จอยักษ์ ใหญ่มากถึง 6.1 นิ้ว  ที่ความละเอียด HD (720p) เรียกได้ว่าขนาดเกือบๆจะเป็น Tablet แล้ว แถมเป็นกระจก กอลิลล่า ของบริษัท คอร์นิ่ง ซะด้วย
จุดที่หลายๆคนถวิลหา คือ แบตเตอรี่ ขนาด 4050 mAh ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นความจุที่ใหญ่ที่สุดในตลาดมือถือขณะนี้ เลยทีเดียวครับ ซึ่งมันพอๆกับ Tablet จะเล็ก ทั่วๆไปเลยครับ
ด้วยคุณสมบัติเด่นนี้ ปัจจุบัน คำศัพท์ อินเทรน เราจึงเรียกรุ่นนี้ได้ว่า เป็น Phone + Tablet = Phablet ครับ

 

ด้านใต้กล่อง ก็แค่ แสดงรุ่น Model MT1-U06 ครับ เวลาเราไปค้นอะไรในเน็ตเกี่ยวกับ firmware ก็เอา model number ไปเช็คดูจะได้ชัวร์ๆ

 

ข้างกล่องไม่มีอะไรพิเศษ ออกแบบมาเน้นเรียบง่าย ตามสไตล์ แอ๊ปเปิ้ล เอ้ยๆ ผิดค่าย ฮ่าๆๆ

 

เปิดกล่องมา อุ๊ แม่จ้าว ใหญ่เต็มกล่องเลย !! (จริงๆแล้วก็เคยเปิดตอนซื้อเครื่องแล้วแหละ ตื่นเต้นไปงั๊นเอง)

 

อุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องครับ มี ตัวเครื่อง, หูฟัง, สาย USB, หม้อแปลง และ คู่มือกับใบรับประกัน

 

หูฟัง/สาย USB และ Adaptor ใช้วัสดุดูดีครับ ดีกว่าหลายๆยี่ห้อที่เคยเห็นมา

 

หม้อแปลง ขนาด output USB port คือ 5volt,  2.0 Amp (2,000 mAh) ดังนั้น เวลาใครจะไปหาซื้อ Adaptor เพิ่ม จะต้องหาแบบ 2A หรือ สูงกว่า นะครับ
ซึ่ง ขนาด 2A นั้น คือขนาดที่ใช้กับ Tablet ทั่วๆไปครับ.

บางท่านอาจจะสนใจอยู่ว่า แล้วชาร์จไฟครั้งนึงเราจะต้องเสียค่าไฟฟ้าเท่าไหร่กันแน่ๆ ดูเหมือน อแดปเตอร์มันสำหรับมือถือเครื่องใหญ่ จ่ายค่าไฟแพงใหม
ผมทำรีวิวคำนวณค่าไฟอยู่ ท้ายบทความ เรียบร้อยแล้วครับ

 

หูฟังสวยงาม คุณภาพวัสดุ ดูดีครับ แต่เจ้าของเครื่องนี้ เค้าคงไม่ได้ใช้ เพราะไม่ได้ฟังเพลง

 

คู่มือเล่มเล็กๆครับ เอาเข้าจริงก็แค่ แนะนำ ตัวเครื่อง ช่อง และ ports ต่างๆ

 

ผมว่าเครื่องมันสวยมากๆครับ เพราะเป็น มือถือ ที่หน้าจอไม่มีปุ่มเลย ขอบจอค่อนข้างชิดขอบตัวเครื่อง เวลาปิดเครื่อง ดูดี มีชาติตระกูล มั่กๆ

เจ้าของเครื่องนี้ ใช้อยู่เดิมคือ i-mobile Q2 Duo (ที่ผมเคยเอามารีวิวไว้ปีที่แล้ว) ผมเลยเอามาเทียบให้ดูครับ
i-mobile Q2Duo คือขนาดจอ 4.3 นิ้วซึ่งเรียกว่าใหญ่แล้วนะครับไม่ใช่เล็กๆ ลองนึกถึงมือถือของคุณผู้อ่านดูสิครับว่ากี่นิ้ว
เทียบกับ Ascend mate นี้แล้ว กลายเป็น เบบี๋ ไปเลยครับ (ดีนะผมไม่เอา Motorola Fire XT (3.2 นิ้ว) หรือ iPhone 4 (3.5 นิ้ว) ที่ผมใช้ถ่ายภาพชุดนี้ มาเทียบด้วย

 

เจ้าของเครื่องบอก ชอบใจ สะใจมากๆ ใหญ่กว่าเดิมแยะ สบายตาสุดๆ แต่กำลังหาวิธีพกพาอยู่ ^_^

ด้านหน้าส่วนบนของจอ คือ ช่องลำโพง พร้อมไฟแสดงสถานะ ซ่อนอยู่ในช่องเดียวกัน ทางซ้ายมือ
ขวามือ เป็นกล้องหน้า และ proximity sensor (เซ็นเซอร์ แสงสว่าง)

 

ด้านหลังไม่มีอะไรเน้นครับ เรียบๆ กล้องนูนออกมานิดๆ ไม่เยอะจนไม่สวย มีช่องลำโพง (Loud Speaker) เล็กๆข้างล่าง

ตามความเห็นของผมแล้ว เครื่องสีขาว ด้านหลังสวยสุดๆเพราะเป็น สีขาวเงาๆ (Crystal White) ดูมีราคา ใครเห็นจะต้องชอบ
ทีแรก เจ้าของเครื่อง เค้าเล็งสีขาวไว้ก่อนซื้อสัปดาห์กว่าๆ ไปจับตัวจริงมาหลายครั้ง แต่พอไปซื้อจริงๆก็เปลี่ยนใจเป็นสีดำในวินาทีสุดท้าย

เพราะสาเหตุที่มีคนทักว่า สีขาว (ดูภาพหน้ากล่องได้ครับ)  ด้านหน้าขอบจอต่างๆจะเป็นสีขาวทำให้มันดูขัดๆตา ซึ่งก็จริงๆครับ พอโดนทัก ขอบสีขาวก็ดูขัดตาขึ้นมาเลยทันที 5555

อันนี้เป็นเรื่อง นานาจิตตัง ครับ

ขอบด้านข้าง ผมคิดว่าเป็น พลาสติกเคลือบสีโลหะด้านๆ สวยงามดูดี

ด้านขวาของจอ เป็น แผงปุ่ม Power / เพิ่มลด เสียง

ด้านซ้าย เป็นช่องใส่ Micro SD Card ซึ่งสามารถใส่ได้มากถึง 64GB

 

ด้านใต้เครื่องจะเป็น ช่อง micro USB (ชาร์จ และ Sync) กับรูไมโครโฟน

 

ด้านบน เป็น ช่องถาดใส่ ซิม (รองรับ micro SIM) กับ ช่องหูฟัง มาตรฐาน 3.5มม

ทั้งช่อง เสียบ momory กับ mocro SIM จะเป็นแบบ แกะฝา (จะมียางห้อยเอาไว้ กันหล่น) แล้วช่องจะเป็นแบบ สปริง กด เอาเข้าออก

 

กลับมาด้านหลัง ซูมให้ชม ครับ กล้องหลังก็ดูเรียบๆ พร้อมแฟลชเล็กๆ

 

ด้านล่าง สกรีน โลโก้ มาตรฐานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ตามสมัยนิยม พร้อม model รุ่น

 

มาพร้อม Android 4.1.2 Jelly Beanสวยงามน่าใช้ แต่จริงๆแล้วผมพบว่า มี Official Firmware Android 4.2.2 ให้โหลดมาอัพกันได้ด้วยตอนนี้ แต่ผมยังไม่มีเวลาทำครับ
เลยบอกเจ้าของเครื่องว่า ให้ลองใช้รุ่นเดิมๆไปก่อน จนกว่าจะรู้สึกเบื่อ ก็แล้วกัน เพราะ ของเดิม ใช้ 4.0.3 อยู่ เปลี่ยนมา 4.1.2 ก็ตื่นเต้นพอสมควรแล้ว

 

ของแถมสำหรับตอนที่ซื้อ ครับ มีเพียง memory card 8GB (No name) กับ เคสฝาพับ อันนี้

 

อันนี้เป็นฟิล์ม ซื้อเพิ่มเอาเองครับ แบบ กึ่งด้าน เอารูปมาลงเพื่อเอาไว้เป็นอ้างอิงในภายหลัง
แม้ว่าจริงๆแล้วกระจกจอ เป็น gollila glass จาก corning ก็จริง มันก็มีสิทธิ์เป็นรอยได้อยู่ดี จ่ายเพิ่มนิดหน่อยสบายใจกว่า

———————–
เพิ่มเติม : ค่าไฟฟ้าจากการใช้งานจริง

จากการใช้งานจริง ซึ่งผู้ใช้เล่นเกมส์เข้าเว็ปเยอะมากๆ สิ้นวันก่อนนอนจะเหลือแบตประมาณ 10-20% ทำให้ต้องชาร์จทุกๆคืน โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที
โดยที่อแดปเตอร์ระบุไว้ว่า Input power 0.5A และผมตั้งค่าอัตราค่าไฟฟ้า ไว้ที่ 4.00 บาท ต่อ ยูนิต (รวมค่า FT) ผลที่ได้คือ เดือนละ 31 บาท ปีละ 375 บาท ครับ

ท่านใดที่สนใจอยากจะคำนวณค่าใช้ไฟฟ้าของ การชาร์จมือถือของคุณเอง ลองโหลแอพใช้ฟรีๆตัวนี้มาใช้ครับ
Evo Wallet – แอพคำนวณการกินไฟ และค่าไฟฟ้า ของเครื่องใช้ไฟฟ้า
———————–
กลับมาอ่าน ผมโม้ กันต่อ

Huawei ออกเสียงว่า หัวเว่ย หรือ หัวเหว่ย ผมสอบถามคุณแม่แล้ว ท่านบอกว่า น่าจะแปลว่า “ดอกไม้เบ่งบาน” แต่จากการค้นในเน็ต หลายคนบอกว่า แปลว่า “เพื่อปวงชน” อันนี้แค่เป็นความรู้ครับ
ส่วนแบรนด์นี้ เป็นยักษ์ใหญ่อยู่ในสายเทคโนโลยี่มานานแล้วครับ หลักๆคือ hardware สำหรับ การวางระบบ telecommunication / network พื้นฐานที่ทั่วโลกยอมรับ แล้วก็เริ่มทำมือถือควบคู่กันมาด้วย
และในระยะหลังนี้ ยอดขายทั่วโลก หัวเว่ย ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ สมาร์ทโฟน ยอดขายเป็น อันดับที่ 3 ของโลก Q3 2013 (Ref : CNet.com) เป็นรองก็ Samsung กับ Apple
มือถือ Huawei จึงเป็นของจีนแดง ที่ไม่ใช่ของ ก๊องแก๊งๆ.

ผมยังไม่รีวิวเกี่ยวกับ software/firmware ภายในนะครับ เพราะ มันเรื่องใช้เวลาพอสมควร อีกอย่างที่ เครื่องนี้ออกมาในตลาดนานพอสมควรแล้ว
Android ก็เป็นรุ่น 4.1.2 Jelly bean โดยใช้ Emotion UI 1.5 จึงไม่มีอะไรใหม่หรือโดดเด่น แต่อย่างน้อยๆ จากที่ลองใช้ๆดูพบว่า
มันเร็วสุดยอดครับ เมื่อเทียบกับ Q2 Duo (สองหัว 1.0 Ghz)  ที่ว่าเร็วแล้ว เจอ Ascend Mate (สี่หัว 1.5Ghz)

หลายคนอาจจะคิดว่า ซื้อ Tablet ไปเลยดิ จะได้ใหญ่เท่าที่ต้องการ ราคาถูกกว่า, ขอบอกว่า ไม่เหมือนกันครับ Tablet จุดประสงค์ต่างกับมือถือ สำหรับ tablet จอขนาด 6-7 นิ้ว ถ้าดูดีๆ ขนาดตัวเครื่องมันจะใหญ่กว่ามากครับ ขอบจอใหญ่ และเครื่องหนักกว่ามากครับ อีกทั้ง ไม่เหมาะกับการเอามาโทรขณะไม่เสียบ hand free หรือ tablet บางตัว ไม่มี GPS ที่จำเป็นสำหรับมือถือด้วย.

ราคาที่ซื้อมาเพียง 7,990 บาท แถม เคส และ Micro SD 8GB (ไม่มียี่ห้อ) โดยที่ราคาเปิดตัว (6 เดือนก่อน) คิดว่าประมาณ 15,000 บาท !!!
ถือว่า คุ้มเกินราคาในมือถือ Spec แบบ นี้, ในเวลาที่ผมรีวิวนี้ ที่ราคา, แบรนด์ระดับโลก และ Spec ใกล้เคียง ไม่มีคู่เทียบเลยครับ  แบบว่า จ่าย 7,990 บาท ได้เครื่องสเปค 12,000-14,000 บาท
บางที่ออนไลน์ขายราคาต่ำว่านี้ แต่แนะนำโดยส่วนตัวคิดว่า ควรซื้อจากร้านที่เรา เห็นของตัวเป็นๆ จับต้องได้ ทดสอบของ ก่อนออกจากร้านได้ แพงกว่านิดๆหน่อยๆแต่ชัวร์ครับ

เพิ่มอีกนิดครับ สำหรับคนที่ไม่ชอบจอยักษ์เกินไปแบบนี้ (บางคนพกใส่กางเกงไม่ได้) Huawei ก็มี Ascend P6 ครับ Spec ใกล้เคียงกัน ราคาแพงกว่า แต่ลองไปจับๆดูครับวัสดุโลหะสวยแน่น ผมว่าตัวนั้นก็สุดยอดของเขานะ คิดว่าคงเป็นระดับ Premium เหมือนกัน

———————–
สรุปการรีวิว hardware Huawei Ascend Mate
จุดเด่น
– จอยักษ์ 6.1 นิ้ว ที่ความละเอียด 720p เหมาะสม กับความคมชัด มุมมองกว้างมาก
– แบตเตอรี่ จุมากถึง 4050 mAh มากกว่าทุกเครื่องที่มีขนาด จอใหญ่
– ราคาปัจจุบัน ลงมาที่ 7,590 – 7,990 บาทเท่านั้น (มีหรือไม่มี ของแถม แล้วแต่ร้าน) ซึ่งหาคู่เทียบไม่ได้เลยในตอนนี้
– วัสดุ โดยรวมดูดี คุ้มค่า เกินราคาปัจจุบัน
– ทำงานได้รวดเร็วมาก เพราะเป็น QuadCore 1.5GHz
– น้ำหนักเบา และตัวเครื่องบาง จอภาพอยู่ชิดกับกระจกจอมากๆ ช่วยทำให้มุมมองกว้างขึ้นมาก

 

ข้อด้อย

– WiFi จะเชื่อมต่อใหม่ช้า (หลังจากปลดล๊อกหน้าจอ อาจจะต้องรอนานประมาณ 3-5 วิ ไวฟายถึงติด) น่าจะเป็นเรื่อง firmware
– อื่นๆยังไม่พบชัดเจน ผมต้องขอเวลาเก็บข้อมูลจากเจ้าของเครื่องนี้ในอีกสัก 1-2 อาทิตย์ครับ

จุดข้อสังเกตุ
– รองรับ เพียง 1 SIM อาจจะไม่เหมาะกับผู้ต้องใช้หลายเบอร์

– แบตความจุสูง แต่ชาร์จก็ใช้เวลา นาน ตามไปด้วย จากทดสอบ จาก 10% ใช้เวลา 2 -3 ขั่วโมง จึง 100%

– มี Official Firmware Android 4.2.2 ออกมาให้ใช้แล้ว, ใครอยากใช้ Android 4.2.2 ต้องอัพเดตด้วยตนเอง.
– บริการหลังการขาย ที่ไหนอย่างไร,  ซ่อมหรือเปลี่ยน อะไรแบบไหน ไม่ทราบจริงๆครับ ผู้ขายบอกให้เอามาที่ร้านง่ายสุด

– สำหรับ ท่านที่เป็น ขา Root ผมก็ไม่แน่ใจครับว่าทำได้ไหมในตอนนี้

———————–

หวังว่า การรีวิว ครั้งนี้ ก็คงเป็นประโยชน์ กับคนที่เล็งๆจะหามือถือจอใหญ่ ในราคาที่ไม่ไกลเกิน นะครับ

ขอบคุณมากครับ

เพิ่มเติม : หลังจากทำบทความรีวิวชิ้นนี้ไป ตอนนี้มีทำเพิ่มเกี่ยวกับ เคส สำหรับ huawei ascend mate ที่เพิ่งซื้อมาใช้เองอีกครับ

ปล. ผู้ที่ใช้ Android หรือ มีมือถือจอยักษ์ กันแล้ว ใช้มือถือของคุณให้มีประโยชน์กันมากขึ้น ด้วย โปรแกรมบันทึกบัญชี รับจ่าย EvoWallet กันครับ ไปชมรีวิว ไป โหลดกันเลย ฟรีๆๆ